skip to Main Content

5 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับหุ้นที่นักลงทุนมือใหม่ต้องรู้

หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับหุ้นมาไม่มากก็น้อย และเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่มีความเชื่อที่ไม่ถูกต้องนักเกี่ยวกับหุ้น

บทความนี้จึงได้รวบรวม 5 ความเชื่อที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิด ซึ่งมีอะไรบ้าง เรามาทำความรู้จักกันในบทความนี้ โดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่หรือผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้น บทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านอย่างแน่นอน

1. “หุ้น = การพนัน”

หากการลงทุนในตลาดหุ้น คือ การเสี่ยงโชค หรือการพนัน เราก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นใครหลาย ๆ คนที่สามารถประสบความสำเร็จในการลงทุนหุ้นได้ ด้วยการมีหลักการลงทุนที่มีระบบชัดเจน และได้รับการพิสูจน์มาเป็นระยะเวลายาวนาน

“Warren Buffett” คือ หนึ่งในบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการลงทุนในตลาดหุ้นด้วยหลักการลงทุนที่มีชื่อว่า การลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) จนสามารถกลายเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 3 ของโลกในปี 2017 ด้วยจำนวนเงิน 85.6 Billion (ข้อมูลจาก Forbes ณ วันที่ 26/03/18 อ้างอิง: https://www.forbes.com/billionaires/list/#version:realtime) และยังมีอีกหลายคนที่มีระบบการลงทุนที่ชัดเจน แล้วสามารถประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เราเห็นว่าการลงทุนไม่เหมือนกับการพนัน

ดังนั้น ในความเป็นจริงแล้ว การลงทุนในตลาดหุ้นนั้น เป็นการลงทุนที่ต้องอาศัยความรู้ ทักษะ และหลักการลงทุนที่ชัดเจน ซึ่งจะแตกต่างกับการพนันที่เราต้องอาศัยการเสี่ยงโชคเป็นหลัก

2. “หุ้น ทำให้รวยเร็ว”

จริงอยู่ที่โดยพื้นฐานมนุษย์ เรามักต้องการอะไรที่สามารถทำเงินได้เร็ว ๆ แต่ในตลาดหุ้นไม่เป็นเช่นนั้น เพราะถ้าเรามองย้อนไปดูผลตอบแทนโดยเฉลี่ยในตลาดหุ้น เราจะพบความเป็นจริงว่า ผลตอบแทนของตลาดหุ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์

(ซึ่งผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่ตัวเลขที่น้อยเลย เพราะเป็นผลตอบแทนแบบทบต้น หมายความว่า ถ้าคุณลงทุนได้ผลตอบแทน 10 เปอร์เซ็นต์ในทุก ๆ ปี แล้วทบผลตอบแทนเข้าไปในเงินต้นอีก เงินลงทุนของคุณจะกลายเป็นเท่าตัว จากเงิน 100 บาท จะกลายเป็น 200 บาท หรือ 100 เปอร์เซ็นต์ ในเวลา 7.2 ปี)

แม้แต่ “Warren Buffett” ที่ถือได้ว่าเป็นปรมาจารย์ของนักลงทุนหลาย ๆ คน เขาสามารถทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ขณะที่ตลาดดัชนี “S&P 500” (ดัชนีที่คำนวณรวมบริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกา 500 บริษัท) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 9.7 เปอร์เซ็นต์ต่อปี

ถ้าเราได้ศึกษาประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น จะพบว่าคนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องได้ผลตอบแทนสูง ๆ ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เขาเหล่านี้สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว

ซึ่งการคาดหวังที่จะรวยเร็ว ๆ อาจจะเป็นเหตุที่ทำให้ไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงสูง ซึ่งถ้าเราไม่มีความรู้มากเพียงพอ จะเป็นเหตุให้เราขาดทุนได้ ดังนั้นสำหรับการลงทุนในหุ้นเราควรโฟกัสที่การเรียนรู้ หรือกระบวนการลงทุน

3. “เงินน้อย ไม่สามารถลงทุนในหุ้นได้”

สำหรับการเริ่มต้นลงทุนในตลาดหุ้น เราไม่จำเป็นต้องมีเงินจำนวนมาก ๆ ถึงจะเริ่มลงทุนได้ การเริ่มต้นด้วยเงินมาก หรือน้อย ไม่สำคัญ สำคัญที่ความรู้เรามีพร้อมหรือไม่

คำแนะนำ คือ สำหรับผู้ที่เริ่มเรียนรู้อาจจะเริ่มต้นด้วยการลงทุนด้วยจำนวนเงินไม่มาก เช่น ลงทุนด้วยจำนวนเงิน 10-20% ของเงินออม แล้วค่อย ๆ เรียนรู้ จนถึงเวลาที่คุณมั่นใจว่ามีความรู้ และประสบการณ์มากเพียงพอ แล้วค่อย ๆ เพิ่มจำนวนเงิน ดังนั้น ขอแค่ความรู้พร้อม เงินลงทุนจะมากหรือจะน้อย ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย

4. “ลงทุนในหุ้น ต้องมีเวลาติดตามหุ้นตลอดเวลา”

การลงทุนในหุ้น เราสามารถออกแบบระบบการลงทุนให้ตรงตามไลฟ์สไตล์ของตนเองได้ เช่น ถ้าคุณทำงานประจำ ไม่มีเวลาในการติดตามหุ้น ก็อาจจะเลือกลงทุนในระยะยาว เลือกหุ้นที่ไม่มีความหวือหวาของราคามากนัก แต่ถ้าหากคุณมีเวลาในการเฝ้าจอ ติดตามหุ้นได้ตลอดเวลาก็อาจจะลงทุนในระยะสั้นก็ได้ หรือถ้าบางคนไม่มีเวลาในการศึกษาหาความรู้ ก็สามารถเลือกให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนนำเงินไปลงทุนแทนเราได้ ก็เลือกลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณว่ามีไลฟ์สไตล์แบบไหน และต้องการลงทุนแบบใด การลงทุนให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ตัวเองเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการลงทุนได้

ดังนั้นการลงทุนในตลาดหุ้นนั้น ถ้าไม่มีเวลาติดตามหุ้นก็สามารถลงทุนได้ เพราะคุณสามารถออกแบบการลงทุนตามความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ที่ต้องการได้

5. “ลงทุนในหุ้น ไม่ต้องใช้ความรู้”

การลงทุนในตลาดหุ้น เป็นเกมที่วัดผลในระยะยาว เพราะในระยะสั้น ๆ ไม่สามารถตัดสินผู้แพ้ ผู้ชนะได้ ซึ่งสิ่งที่จะทำให้ผู้ลงทุนอยู่รอดในตลาดหุ้นในระยะยาวได้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับ ความรู้ และประสบการณ์ หลักคิดที่ถูกต้อง ซึ่งในข้อนี้เราจะพูดถึงเรื่อง ความรู้ ดังนั้น การลงทุนเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความรู้ ความรู้จะเป็นอาวุธที่สำคัญในการลงทุนหุ้น

จงลงทุนในความรู้ ดังเช่นคำของ Benjamin Franklin บิดาผู้สร้างชาติของสหรัฐอเมริกาได้กล่าวไว้ว่า “การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดคือ การลงทุนในความรู้”

บทความนี้กล่าวถึงความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้นที่คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิด ลองเปลี่ยนมุมมองความคิดเหล่านี้เพื่อจะได้เป็นรากฐานที่จะทำให้คุณสามารถประสบความสำเร็จในการลงทุนหุ้นได้ และหวังว่าทุกท่านจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากบทความนี้นะครับ

แชร์เพจ
Back To Top